พริกไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper nigrum
L.
ชื่อวงศ์ Piperaceae
เป็นที่รู้จักกันดีว่า
พริกไทย คือ ราชาแห่งเครื่องเทศ เนื่องจากเป็นพืชเครื่องเทศที่สำคัญและปลูกอย่างแพร่หลายในอินเดีย
รวมไปถึงประเทศต่างๆ ได้แก่ อินโดนีเซีย ศรีลังกา ไทย จีน เวียดนาม กัมพูชา บราซิล
แม็กซิโก และกัวเตมาลา เป็นต้น
พริกไทยดำเป็นเครื่องเทศที่ใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลก
เป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้สำหรับกระบวนการผลิตแปรรูปเนื้อสัตว์ ซอส ซุป ผงปรุงรส
และการดอง (Akshay et al., 2018)
พริกไทยเจริญเติบโตได้ดีในช่วงอุณหภูมิ
23 - 32 องศาเซลเซียส มีความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 75-80 ต้องการปริมาณน้ำฝนมากกว่า
3,000 มิลลิเมตรต่อปี และควรมีปริมาณฝนกระจายตลอดทั้งปี ความต้องการแสงเพียงร้อยละ
50 พริกไทยไม่ทนต่อพื้นที่แห้งแล้ง แต่สามารถเจริญเติบโตในดินหลายแบบเช่น
ดินเหนียวไปจนถึงดินทราย ซึ่งควรมีการระบายน้ำที่ดี มีความอินทรียวัตถุที่พอเหมาะ
และค่า pH
5.5-6.5 พริกไทยมีอายุเก็บเกี่ยว 12-15 ปี
จะมีผลผลิตเต็มที่เมื่อปลูกไปแล้ว 3 ปี (Shango et al., 2020)
พันธุ์พริกไทย
1.พันธุ์ซาราวัคหรือพันธุ์คุชชิ่ง
เป็นพันธุ์ที่นำมาจากรัฐซาราวัค ประเทศมาเลเซีย
เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นการค้ามากที่สุด เนื่องจากให้ผลผลิตสูง
ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 3,600 – 4,800 กิโลกรัมต่อปี(ต้นมีความสมบูรณ์)
มีความต้านทานโรครากเน่าโคนเน่าได้ดี และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ปลูกกันมากในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มักแปรรูปทำเป็น “พริกไทยดำ”
(สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี, 2557)
2.พันธุ์ซีลอน
(ยอดขาว) เป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศศรีลังกา ความจริงเป็นพริกไทยพันธุ์ Panniyur-1
เป็นพริกไทยพันธุ์ลูกผสมของอินเดียระหว่างพ่อพันธุ์ Uthirankota
กับแม่พันธุ์ Cheriyakaniyakadan มีลักษณะเถาอ่อนเกือบขาวโดยเฉพาะยอดอ่อน
จึงนิยมเรียกว่า “ซีลอนยอดขาว” พริกไทยพันธุ์นี้ผลสดมีลักษณะโตกว่าพันธุ์อื่นๆ
จึงนิยมปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นพริกไทยสด เพื่อส่งโรงงานทำพริกไทยดอง
(สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี, 2557)
3.พันธุ์ปะเหลียน
เป็นพันธุ์พริกไทยที่มีการปลูกครั้งแรกในท่องทีอำเภอปะเหลียนจังหวัดตรัง
แต่เมื่อมีการขยายพันธุ์นำไปปลูกที่อื่น
จึงเรียกว่าชื่อพันธุ์ตามแหล่งที่ได้มาครั้งแรก คือพันธุ์ปะเหลียน
เป็นพริกไทยพันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรครากเน่าโคนเน่าได้ดี
และต้านทานการรบกวนของไส้เดือนฝอยได้ดีพิเศษ ซึ่งมีปลูกเฉพาะภาคใต้เท่านั้น
โดยผลผลิตลักษณะผลมีขนาดเล็กจำนวนผลต่อช่อถี่ จึงให้ผลผลิตค่อนข้างสูง
แต่ถึงอย่างนั้นผลผลิตยังน้อยกว่าพันธุ์ซาราวัค(สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี,
2557)
พันธุ์พริกไทยทั้ง 3 พันธุ์ข้างต้นที่กล่าวมาเป็นพันธุ์ทีมีปลูกในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ซึ่งสายพันธุ์อื่นที่มีปลูกกันอาจมีมากกว่าสายพันธุ์ที่ได้กล่าวมาข้างต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น